![]() 10 Incredible Android Smartphone (TENN Magazine) สมาร์ทโฟนที่มีมันสมองหรือระบบปฏิบัติการของเจ้าหุ่นสีเขียวนามว่า "แอนดรอยด์" (Android) ที่เดินนำทัพออกมาหลายรุ่นหลากความสามารถ ทำเอาคนเลือกซื้อเลือกใช้ลำบากอยู่ไม่น้อย วันนี้เราจึงได้นำข้อมูลดี ๆ จาก TENN Magazine ฉบับ Easy Android มาแนะนำสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์ที่น่าสนใจ 10 รุ่นให้ได้รู้จักกัน ![]() ![]() 1. HTC ONE X กล้องเยี่ยมเสียงยอด HTC One X ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุด Ice Cream Sandwich และมาพร้อมกับกล้องคุณภาพระดับสุดยอด ถ่ายภาพได้ในทุกสถานการณ์ ทั้งถ่ายภาพนิ่งและเคลื่อนไหวในเวลาเดียวกันได้ด้วย พร้อมระบบเสียงที่ใช้ระบบของ Beat Audio เติมเต็มทุกความบันเทิงบนมือถือ ยิ่งถ้าใช้คู่กับหูฟังของ Dr. Dre ก็เหมือนกับยกเวทีคอนเสิร์ตมาไว้ในมือเลยทีเดียว ![]() ![]() 2. SONY XPERIA S ดีไซน์ล้ำนำสมัย Xperia S เป็นสมาร์ทโฟนที่บ่งบอกความเป็น Sony ได้เป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่ลงตัว ออกแบบมาให้จับได้กระชับมือ แต่ที่โดดเด่นมาก ๆ คือ ส่วนด้านล่างที่โปร่งแสง สามารถแสดงผลการทำงานของปุ่มได้อย่างสวยงาม แถมกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงถึง 12 MP และการแสดงผลหน้าจอระดับ HD ถ้าใครชอบการออกแบบที่สวยงามไม่ควรมองข้ามสมาร์ทโฟนตัวนี้ไปเลย ![]() ![]() 3. Samsung Galaxy S III ที่สุดของความฉลาด สมาร์ทโฟนรุ่นที่ 3 ของซีรี่ย์ Galaxy S ซึ่งได้รับการพัฒนา "ความฉลาด" เพิ่มขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการพักหน้าจออัตโนมัติ การสั่นเตือนทันทีที่เราจับโทรศัพท์ในกรณีมีสายที่ไม่ได้รับ สามารถจดจำลักษณะใบหน้าของบุคคลได้จากภาพถ่ายและสามารถลิงค์เข้า Social Network ของเพื่อนได้เลย พร้อมการแชร์ข้อมูลที่ง่าย รวมทั้งซอฟท์แวร์กล้องถ่ายภาพที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น ![]() ![]() 4. SAMSUNG GALAXY NOTE จดโน้ตสะดวกไม่เหมือนใคร Samsung Galaxy Note ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่อาจจะเรียกได้ว่า "ฉีกกฎ" หรือ "ย้อนยุค" เพราะได้นำเอา Stylus ที่เคยมีใช้งานกันในสมาร์ทโฟนยุคแรก ๆ กลับมาใช้ แต่การกลับมาคราวนี้มาพร้อมชุดแอพพลิเคชั่น S-Pen ที่พัฒนาโดย Samsung ทำให้การใช้งานเจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้ เหมาะกับคนที่ชื่นชอบการจดบันทึกหรือขีด ๆ เขียน ๆ เป็นอย่างมาก ![]() ![]() 5. HTC SENSATION XL เพื่อคนรักความบันเทิง HTC Sensation XL เป็นสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับหูฟังของ Beat Audio บ่งบอกเลยว่าสมาร์ทโฟนตัวนี้เกิดมาเพื่อความบันเทิงจริง ๆ ตัวเครื่องออกแบบได้อย่างสวยงาม ถึงจะมีน้ำหนักมากสักหน่อย แต่ก็ชดเชยด้วยความแข็งแรง และระบบเสียงคุณภาพเยี่ยม สำหรับคนที่ชื่นชอบการฟังเพลงแนวเบสหนัก ๆ แล้วล่ะก็ Sensation XL และหูฟังของ Beat Audio ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน ![]() ![]() 6. MOTOROLA RAZR MAXX แบตเตอรี่อึดระดับสุดยอด ปัญหาของทุกคนที่ใช้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันคือ เรื่องความอึดของแบตเตอรี่ที่หมดเร็วเหลือเกิน หลายรุ่นใช้งานได้ไม่เต็มวัน ชาร์จแบตเตอรี่เต็มตอนเช้า ตกบ่ายก็ต้องเสียบชาร์จอีกแล้ว แต่ปัญหาแบบนี้จะไม่เกิดกับ Motorola Razr Maxx เพราะมีแบตเตอรี่ความจุถึง 330 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องได้มากกว่า 20 ชั่วโมงสบาย ๆ นอกจากนี้ยังคงการออกแบบที่บางเบาและยังใช้วัสดุที่ป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีด้วย ![]() ![]() 7. LG OPTIMUS 4X HD ที่สุดของความแรง LG Optimus 4X HD เป็นรุ่นที่พัฒนาต่อมาจาก Optimus 2X มีจุดเด่นอยู่ที่ความแรงในการประมวลผล เพราะใช้ CPU เป็นตัว NVIDA Quad Core Tegra 3 Cortex-A9 ที่แรงถึง 1.5 GHz พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการใหม่ Ice Cream Sandwich ใครที่ชื่นชอบความแรงแล้วล่ะก็ Optimus 4X น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์อีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะ ![]() ![]() 8. HUAWEI honor U8860 เทคโนโลยีสุดยอดในราคาที่เอื้อมถึง คำพูดที่บอกว่า "ของถูกและดีไม่มีในโลก" อาจจะใช้ไม่ได้สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่น Honor U8860 ของ Huawei บริษัทสัญชาติจีนที่พัฒนาเทคโนโลยีระดับสุดยอดได้ในราคาที่ไม่แพง Honor U8860 เปิดตัวในราคาที่ไม่ถึง 10,000 บาท แต่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Ice Cream Sandwich ตัวล่าสุด CPU เร็วถึง 1.4 GHz หน้าจอ 4 นิ้ว กล้อง 8 MP เรียกได้ว่าเป็นสเปคระดับท็อปเลยทีเดียว Honor U8860 น่าจะเป็นคำตอบสุดท้ายของคำว่าของดีราคาไม่แพง ![]() ![]() 9. LG PRADA 3.0 เทคโนโลยีเรียบแต่หรู คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโทรศัพท์มือถือสมัยนี้กลายเป็นเครื่องประดับของหลาย ๆ คนไปซะแล้ว สำหรับคนที่ชื่นชอบความหรูหรา LG Prada นับได้ว่าเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะความพิถีพิถันในการออกแบบทั้งตัวเครื่องที่ใช้ลายหนัง Saffiano ของ Prada และหน้าจอการใช้งานต่าง ๆ ที่ให้อารมณ์หรูหรา บวกกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นสมาร์ทโฟนที่ทั้งเรียบและหรูในตัวเดียวกัน ![]() ![]() 10. SAMSUNG GALAXY NEXUS ที่สุดของความฉลาด สมาร์ทโฟนในซีรี่ย์ Nexus เป็นรุ่นที่ออกโดย Google เอง ไม่มีอินเตอร์เฟสของผู้ผลิตมาครอบครองการใช้งานอีกที ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่กูเกิ้ลให้ Samsung ผลิต มาพร้อมเวอร์ชั่น Ice Cream Sandwich ที่เป็นระบบปฏิบัติการล่าสุดที่จะทำให้เราได้ประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ราบรื่นและสวยงาม ใครที่ต้องการสมาร์ทโฟนสายพันธุ์ Google แท้ ๆ ได้รับอัพเดตใหม่ ๆ จาก Google ก่อนใครก็ต้องเลือก Galaxy Nexus นี่แหละ ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ TENN Magazine ISSUE 02 มิถุนายน 2555 ขอขอบคุณภาพประกอบจาก htc.com, sonymobile.com, samsung.com, motorola.com,facebook LG Optimus 4X HD, androidguys.com, pradaphonebylg3.com ที่มา - http://men.kapook.com/view44358.html คัดลอกจาก http://www.enjoylike.com/forum/viewthread.php?tid=855 |
Android Story
วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555
10 สุดยอดมือถือ ระบบแอนดรอยด์ ที่น่าสัมผัส น่าสนใจที่สุด ปี 2012
วันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2555
Android Story ตอนที่ 4 แอนดรอยด์ฟีเจอร์ Android Features
สำหรับตอนที่ 4 นี้เราจะมาพูดถึง Android Features ว่าระบบปฏิบัติบัติการแอนดรอยด์สามารถทำอะไรได้บ้าง
ณ ปัจจุบันนี้ Android ก็ยังไม่ได้หยุดพัฒนาทำให้ Android ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง
ด้านการแสดงผล Handset layouts
Android แพล็ตฟอร์มสามารถปรับแต่งปรับแต่งการแสดงผลให้มีขนาดใหญ่ได้ จอแสดงผลในแบบ VGA , ไลบรารีกราฟิก 2 มิติ , ไลบรารีกราฟิก 3 มิติ ที่ทำงานบน OpenGL ES 2.0
ระบบจัดเก็บข้อมูลและฐานข้อมูล
ใช้ฐานข้อมูล SQLite เพื่อจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลจากฐานข้อมูล
การเชื่อมต่อกับโครงข่าย
ระบบปฏิบัติการ Android สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับโครงข่ายโทรคมนาคมได้หลายมาตราฐาน ไม่ว่าจะเป็น GSM/EDGE, IDEN, CDMA, EV-DO, UMTS, Bluetooth, Wi-Fi, LTE, และ WiMAX.
การรับส่งข้อความ
Android รองรับการส่งข้อความ SMS และ MMS ปัจจุบันมีการส่งเทรดข้อความไปยัง Android Cloud เพื่อ Messaging Device Framework (C2DM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Android Push Messaging ระบบการรับส่งข้อความบนเซริฟเวอร์กลุ่มเมฆของ Android
เว็บเบราเซอร์
เว็บเบราเซอร์ใน Android จะทำงานบนโอเพ่นซอร์สที่ใช้เอนจิ้น WebKit โดยจะมาพร้อมกับเอนจิ้น Java Script บน Chrome เวอร์ชั่น 8 โดยการทดสอบล่าสุด Android WebKit สามารถทำคะแนนได้ 93 เต็ม 100 จากการทดสอบ Acid3
รองรับ JAVA
Android สนับสนุน Java แต่ไม่ใช่ Java Virtual Machine คลาส Java จะคอมไพล์ใหม่ไปเป็นการเอ็กซีคิวซ์แบบ Dalvik และทำงานบน Dalvik Virtual Machine ซึ่ง Dalvik เป็น Virtual Machine พิเศษที่ออกแบบให้ใช้งานกับ Android เพื่อประหยัดพลังงานในการใช้แบตเตอร์รี่บนอุปกรณ์มือถือที่หน่วยความจำและซีพียูที่จำกัด นอกจากนั้น Android ยังสนับสนุน J2MEเหมือนกับระบบปฏิบัติการบนมือถือตัวอื่นๆ โดยรันผ่าน J2ME MIDP Runner
รองรับไฟล์มัลติมีเดีย
Android สนับสนุนไฟล์ออดิโอ วิดีโอ รูปภาพ เช่น WebM, H.263, H.264 (บ้านเราเรียกว่า 3GP หรือ MP4), MPEG-4 SP, AMR, AMR-WB (in 3GP container), AAC, HE-AAC (in MP4 or 3GP container), MP3, MIDI, Ogg Vorbis, WAV, JPEG, PNG, GIF, BMP.
รองรับระบบสตรีมมิง
Android รองรับการชมการถ่ายทอดสดและการบรอดคลาส แบบ Video Streaming ไม่ว่าจะเป็น RTP/RTSP streaming (3GPP PSS, ISMA), HTML (HTML5 <video> tag). Adobe Flash Streaming (RTMP),ส่วน Apple HTTP Live Streaming ตั้งแต่ Android Version 2.3 เป็นต้นไป ส่วนมาตราฐานการสตรีมมิง เช่น Microsoft Smooth Streaming หรือ ที่เรารู้จักกันในนาม Silverlight ในอนาคต Android ก็มีแผนจะทำให้รองรับด้วยเช่นกัน

รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ส่วนเสริมอื่นๆ
Android สามารถเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์เสริมต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ เช่น cameras, touchscreens(จอภาพระบบสัมผัส), GPS, accelerometers(เซ็นเซอร์ตรวจความเคลื่อนไหว), gyroscopes(เซ็นเซอร์ตรวจวัดการทรงตัว), magnetometers(เข็มทิสดิจิตอล), proximity and pressure sensor(เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างและความกดอากาศ), thermometers(เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ), รวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยประมวลผลกราฟฟิก(การ์ดจอ)ได้อีกด้วย
สภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนต่อการพัฒนาโปรแกรม
Android ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการพัฒนาต่อยอดทั้ง emulator,เครื่องมือในการ debugging ต่างๆ,เครื่องมือในการ วิเคราะห์การใช้หน่วยความจำ,เครืองมือในการเขียนโปรแกรม integrated development environment (IDE) โดยใช้ Eclipse ที่ติดตั้งส่วนเสริม Android Development Tools (ADT)
Market
Android Market ส่วนของแอพพลิเคชั่นฟรีที่ดาวน์โหลดมากกว่า 100,000 แอพพลิเคชั่น
มัลติทัชและมัลติทาร์ก
Android รองรับระบบจอภาพแบบสัมผัสแบบมัลติทัช(Multi-touch)ที่รองรับการสัมผัสบนหน้าจอมากกว่า 1 จุด
และสนับสนุนการทำงานของแอพพลิเคชั่นในแบบมัลติทาสก์(Multitasking)สามารถเปิดโปรแกรมพร้อมๆกันหลายๆโปรแกรมได้
บลูทูช
Android ตั้งแต่ Version 1.5 support A2DP และ AVRCP สามารถเชื่อมต่อกับหูฟังได้
ส่วน การส่งและรับไฟล์ (OPP) และการเชื่อมต่อสมุดโทรศัพท์ (PBAP) เริ่มรองรับตั้งแต่ Android version 2.0 เป็นต้นไป
วีดีโอคอล Videocalling
Android รุ่นที่ออกมาหลักๆแล้วจะยังไม่รองรับ Videocall เว้นแต่รุ่นที่จำหน่ายโดยผู้ให้บริการที่มีบริการ Videocalling บนโครงข่าย UMTS เช่น Samsung i9000 Galaxy S แต่ Android นั้นรองรับการสนทนาแบบเห็นทั้งภาพและเสียงผ่าน อินเตอร์เน็ต VoIP
Voice based features ระบบสั่งงานด้วยเสียง
Android ตั้งแต่ Version 2.2 เป็นต้นไปรองรับระบบการสั่งงานด้วยเสียง
Tethering การสร้างจุด Hotspot จากโทรศัพท์มือถือ
Android ตั้งแต่ Version 2.2 เป็นต้นไป สามารถทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกระจายสัญญาณ WiFi เพื่อให้อุปกรณ์รอบข้างสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ส่วน Android version ที่เก่ากว่าก็สามารถทำได้เช่นกันแต่ต้องใช้โปรแกรมเสริม
คัดลอกจาก http://www.phet.in.th/2011/01/android-story-4-android-features/
ณ ปัจจุบันนี้ Android ก็ยังไม่ได้หยุดพัฒนาทำให้ Android ยังมีการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆอย่างต่อเนื่อง

Android แพล็ตฟอร์มสามารถปรับแต่งปรับแต่งการแสดงผลให้มีขนาดใหญ่ได้ จอแสดงผลในแบบ VGA , ไลบรารีกราฟิก 2 มิติ , ไลบรารีกราฟิก 3 มิติ ที่ทำงานบน OpenGL ES 2.0
ระบบจัดเก็บข้อมูลและฐานข้อมูล
ใช้ฐานข้อมูล SQLite เพื่อจัดเก็บข้อมูลและประมวลผลจากฐานข้อมูล
การเชื่อมต่อกับโครงข่าย
ระบบปฏิบัติการ Android สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับโครงข่ายโทรคมนาคมได้หลายมาตราฐาน ไม่ว่าจะเป็น GSM/EDGE, IDEN, CDMA, EV-DO, UMTS, Bluetooth, Wi-Fi, LTE, และ WiMAX.
การรับส่งข้อความ
Android รองรับการส่งข้อความ SMS และ MMS ปัจจุบันมีการส่งเทรดข้อความไปยัง Android Cloud เพื่อ Messaging Device Framework (C2DM) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการ Android Push Messaging ระบบการรับส่งข้อความบนเซริฟเวอร์กลุ่มเมฆของ Android
เว็บเบราเซอร์
เว็บเบราเซอร์ใน Android จะทำงานบนโอเพ่นซอร์สที่ใช้เอนจิ้น WebKit โดยจะมาพร้อมกับเอนจิ้น Java Script บน Chrome เวอร์ชั่น 8 โดยการทดสอบล่าสุด Android WebKit สามารถทำคะแนนได้ 93 เต็ม 100 จากการทดสอบ Acid3
รองรับ JAVA
Android สนับสนุน Java แต่ไม่ใช่ Java Virtual Machine คลาส Java จะคอมไพล์ใหม่ไปเป็นการเอ็กซีคิวซ์แบบ Dalvik และทำงานบน Dalvik Virtual Machine ซึ่ง Dalvik เป็น Virtual Machine พิเศษที่ออกแบบให้ใช้งานกับ Android เพื่อประหยัดพลังงานในการใช้แบตเตอร์รี่บนอุปกรณ์มือถือที่หน่วยความจำและซีพียูที่จำกัด นอกจากนั้น Android ยังสนับสนุน J2MEเหมือนกับระบบปฏิบัติการบนมือถือตัวอื่นๆ โดยรันผ่าน J2ME MIDP Runner
รองรับไฟล์มัลติมีเดีย
Android สนับสนุนไฟล์ออดิโอ วิดีโอ รูปภาพ เช่น WebM, H.263, H.264 (บ้านเราเรียกว่า 3GP หรือ MP4), MPEG-4 SP, AMR, AMR-WB (in 3GP container), AAC, HE-AAC (in MP4 or 3GP container), MP3, MIDI, Ogg Vorbis, WAV, JPEG, PNG, GIF, BMP.
รองรับระบบสตรีมมิง
Android รองรับการชมการถ่ายทอดสดและการบรอดคลาส แบบ Video Streaming ไม่ว่าจะเป็น RTP/RTSP streaming (3GPP PSS, ISMA), HTML (HTML5 <video> tag). Adobe Flash Streaming (RTMP),ส่วน Apple HTTP Live Streaming ตั้งแต่ Android Version 2.3 เป็นต้นไป ส่วนมาตราฐานการสตรีมมิง เช่น Microsoft Smooth Streaming หรือ ที่เรารู้จักกันในนาม Silverlight ในอนาคต Android ก็มีแผนจะทำให้รองรับด้วยเช่นกัน

รองรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ส่วนเสริมอื่นๆ
Android สามารถเชื่อมต่อกับฮาร์ดแวร์เสริมต่างๆเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ เช่น cameras, touchscreens(จอภาพระบบสัมผัส), GPS, accelerometers(เซ็นเซอร์ตรวจความเคลื่อนไหว), gyroscopes(เซ็นเซอร์ตรวจวัดการทรงตัว), magnetometers(เข็มทิสดิจิตอล), proximity and pressure sensor(เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะห่างและความกดอากาศ), thermometers(เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ), รวมไปถึงอุปกรณ์ช่วยประมวลผลกราฟฟิก(การ์ดจอ)ได้อีกด้วย
สภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนต่อการพัฒนาโปรแกรม
Android ถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อการพัฒนาต่อยอดทั้ง emulator,เครื่องมือในการ debugging ต่างๆ,เครื่องมือในการ วิเคราะห์การใช้หน่วยความจำ,เครืองมือในการเขียนโปรแกรม integrated development environment (IDE) โดยใช้ Eclipse ที่ติดตั้งส่วนเสริม Android Development Tools (ADT)
Market
Android Market ส่วนของแอพพลิเคชั่นฟรีที่ดาวน์โหลดมากกว่า 100,000 แอพพลิเคชั่น
มัลติทัชและมัลติทาร์ก
Android รองรับระบบจอภาพแบบสัมผัสแบบมัลติทัช(Multi-touch)ที่รองรับการสัมผัสบนหน้าจอมากกว่า 1 จุด
และสนับสนุนการทำงานของแอพพลิเคชั่นในแบบมัลติทาสก์(Multitasking)สามารถเปิดโปรแกรมพร้อมๆกันหลายๆโปรแกรมได้
บลูทูช
Android ตั้งแต่ Version 1.5 support A2DP และ AVRCP สามารถเชื่อมต่อกับหูฟังได้
ส่วน การส่งและรับไฟล์ (OPP) และการเชื่อมต่อสมุดโทรศัพท์ (PBAP) เริ่มรองรับตั้งแต่ Android version 2.0 เป็นต้นไป
วีดีโอคอล Videocalling
Android รุ่นที่ออกมาหลักๆแล้วจะยังไม่รองรับ Videocall เว้นแต่รุ่นที่จำหน่ายโดยผู้ให้บริการที่มีบริการ Videocalling บนโครงข่าย UMTS เช่น Samsung i9000 Galaxy S แต่ Android นั้นรองรับการสนทนาแบบเห็นทั้งภาพและเสียงผ่าน อินเตอร์เน็ต VoIP
Voice based features ระบบสั่งงานด้วยเสียง
Android ตั้งแต่ Version 2.2 เป็นต้นไปรองรับระบบการสั่งงานด้วยเสียง
Tethering การสร้างจุด Hotspot จากโทรศัพท์มือถือ
Android ตั้งแต่ Version 2.2 เป็นต้นไป สามารถทำให้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวกระจายสัญญาณ WiFi เพื่อให้อุปกรณ์รอบข้างสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ส่วน Android version ที่เก่ากว่าก็สามารถทำได้เช่นกันแต่ต้องใช้โปรแกรมเสริม
คัดลอกจาก http://www.phet.in.th/2011/01/android-story-4-android-features/
Android Story ตอนที่ 3 เจาะลึกลงไปในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Inside Android
เมื่อเราลงลึกลงไปถึงตัว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ว่าข้างในมันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
Android นั้นมีโครงสร้างทางซอร์ฟแวร์ซึ่งประกอบไปด้วย

1. Java applications ที่รันบน Java object oriented application framework ที่ประกอบไปด้วย Java core libraries ที่รันบน Dalvik virtual machine กับ JIT compilation
3. ใช้ OpenCore เป็น media framework (ตัวจัดการด้านมัลติมีเดีย)
4.ใช้ SQLite เป็นระบบจัดการฐานข้อมูล
5. ใช้ OpenGL ES 2.0 API เป็นตัวจัดการกราฟิกแบบ 3 มิติ 3D
6. WebKit เลย์เอาต์เอนจิ้นเว็บคิต (WebKit) เป็นเฟรมเวิร์กในลักษณะโอเพนซอร์ซที่เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล ใช้ในการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์
7. SGL กราฟิกเอนจิ้น Skia Graphics Engine
8. SSLTransport Layer Security (TLS) หรือชื่อเดิม Secure Sockets Layer (SSL) เป็นโปรโตคอลที่ใช้เข้ารหัสข้อมูลที่ส่งในอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บเพจ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมสนทนา และอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยในการส่งข้อมูล มีข้อแตกต่างในรายละเอียดทางเทคนิคระหว่าง SSL 3.0 และ TLS 1.0 เพียงเล็กน้อย ดังนั้นตัวย่อ SSL จะหมายถึงโปรโตคอลทั้งคู่ ในกรณีที่ไม่ระบุว่าตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ
9. Bionic C Library ไลแบรี่ภาษา C สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

โดยรวมแล้ว Source Code สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มีมากถึง 12 ล้านบรรทัด
นั้นประกอบไปด้วย
ซอร์สโค๊ตที่เป็น XML (Extensible Markup Language) Layout ต่างๆ ประมาณ 3 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา C 2.8 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา JAVA 2.1 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา C++ 1.75 ล้านบรรทัด
คัดลอกจากhttp://www.blogger.com/blogger.g?blogID=9221947042976360644#editor/src=sidebar
Android นั้นมีโครงสร้างทางซอร์ฟแวร์ซึ่งประกอบไปด้วย

1. Java applications ที่รันบน Java object oriented application framework ที่ประกอบไปด้วย Java core libraries ที่รันบน Dalvik virtual machine กับ JIT compilation
just-in-time (JIT) compiler โปรแกรมที่เปลี่ยนกลับ bytecode ของ Java ให้เป็นคำสั่งที่สามารถส่งตรงไปที่โพรเซสเซอร์2.ไลแบรี่ต่างๆที่ถูกเขียนขึ้นด้วยภาษา C เป็นระบบจัดการขั้นพื้นฐาน
3. ใช้ OpenCore เป็น media framework (ตัวจัดการด้านมัลติมีเดีย)
4.ใช้ SQLite เป็นระบบจัดการฐานข้อมูล
5. ใช้ OpenGL ES 2.0 API เป็นตัวจัดการกราฟิกแบบ 3 มิติ 3D
6. WebKit เลย์เอาต์เอนจิ้นเว็บคิต (WebKit) เป็นเฟรมเวิร์กในลักษณะโอเพนซอร์ซที่เริ่มพัฒนาโดยบริษัทแอปเปิล ใช้ในการพัฒนาเว็บเบราว์เซอร์
7. SGL กราฟิกเอนจิ้น Skia Graphics Engine
8. SSLTransport Layer Security (TLS) หรือชื่อเดิม Secure Sockets Layer (SSL) เป็นโปรโตคอลที่ใช้เข้ารหัสข้อมูลที่ส่งในอินเทอร์เน็ต เช่น เว็บเพจ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมสนทนา และอื่นๆ เพื่อความปลอดภัยในการส่งข้อมูล มีข้อแตกต่างในรายละเอียดทางเทคนิคระหว่าง SSL 3.0 และ TLS 1.0 เพียงเล็กน้อย ดังนั้นตัวย่อ SSL จะหมายถึงโปรโตคอลทั้งคู่ ในกรณีที่ไม่ระบุว่าตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษ
9. Bionic C Library ไลแบรี่ภาษา C สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

โดยรวมแล้ว Source Code สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มีมากถึง 12 ล้านบรรทัด
นั้นประกอบไปด้วย
ซอร์สโค๊ตที่เป็น XML (Extensible Markup Language) Layout ต่างๆ ประมาณ 3 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา C 2.8 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา JAVA 2.1 ล้านบรรทัด
ซอร์สโค๊ตที่เขียนจากภาษา C++ 1.75 ล้านบรรทัด
คัดลอกจากhttp://www.blogger.com/blogger.g?blogID=9221947042976360644#editor/src=sidebar
Android Story ตอนที่ 2 แอนดรอยด์ คืออะไร What is Android ??
Android (แอนดรอยด์)คือ ระบบปฏิบัติการบนโทรศัพท์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ ที่เริ่มแรกเดิมทีนั้นถูกพัฒนาโดยบริษัท Android Inc. และต่อมาก็ถูกซื้อโดย กูเกิลในปี 2005 โดยที่ Android นั้นถูกพัฒนาโดยใช้รากฐานดัดแปลงมาจาก Linux kernel ต่อมา Google และ พันธมิตบริษัทอื่นๆได้รวมตัวจัดตั้งองกรความร่วมมือทืี่ชื่อว่า Open Handset Alliance เพื่อต่อยอด Android ให้ประสบผลสำเร็จในเชิงพาณิช


ระบบปฏิบัติการ Android นั้นอยู่ในกลุ่มของ Open Source Project นั้นคือมีการเปิดเผยซอร์สโค๊ตให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถพัฒนาต่อยอดได้ โดยยอดขายของโทรศัพท์มือถือในกลุ่ม Smart phone ในประเทศสหรััฐอเมริกา Android มีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 43.6%
Android นั้นมีชุมชนนักพัฒนาซอร์ฟแวร์ขนาดใหญ่ที่คอยสร้างสรรค์ Application หรือลูกเล่นต่างๆใหกับโทรศัพท์มือถือที่มีระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยปัจจุบันมีโปรแกรมต่างๆ มากกว่า 200,000 โปรแกรม
การเขียนหรือการพัฒนาโปรแกรมบนแอนดรอยด์สามารถเขียนได้โดยใช้ภาษา จาวา เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆโดยผ่านทาง Google-developed Java libraries
คัดลอกจาก http://www.phet.in.th/2011/01/android-story-2-what-is-android/


ระบบปฏิบัติการ Android นั้นอยู่ในกลุ่มของ Open Source Project นั้นคือมีการเปิดเผยซอร์สโค๊ตให้นักพัฒนาทั่วโลกสามารถพัฒนาต่อยอดได้ โดยยอดขายของโทรศัพท์มือถือในกลุ่ม Smart phone ในประเทศสหรััฐอเมริกา Android มีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึง 43.6%

การเขียนหรือการพัฒนาโปรแกรมบนแอนดรอยด์สามารถเขียนได้โดยใช้ภาษา จาวา เพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่างๆโดยผ่านทาง Google-developed Java libraries
คัดลอกจาก http://www.phet.in.th/2011/01/android-story-2-what-is-android/
วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
Android Story
ตอนที่ 1 ประวัติและความเป็นมาของ Android
ในเดือนกรกฏาคมปี 2005 Google ได้เข้าซื้อกิจการของ Android Inc. บริษัทเล็กๆใน Palo Alto, California, USA. โดยเข้าซื้อทั้งกิจการและซื้อทั้งตัวบุคลากรใน Android Inc. ทั้งหมด ในเวลานั้นน้อยคนนักที่จะรู้จักว่าแอนดรอยคืออะไร รู็กันก็แต่ว่ากลุ่มคนที่ถูกซื้อจากบริษัทแอนดรอยนั้นทำซอฟแวร์สำหรับมือถือ ซึ่งในขณะนั้น Google ก็มีแผนจะรุกตลาดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่เช่นกัน

ที่กูเกิล หัวหน้าทีมผู้พัฒนาคือ Andy Rubin กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือโดยใช้ Linux kernel เพื่อเป็นระบบปฏิบัติการให้แก่ผู้ผลิตและผู้ให้บริการโทรศัพท์ โดยมีหลักสำคัญคือ Android ต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถอัพเกรดได้ พร้อมทั้งสามารถรองรับบริการต่างๆจากทาง Google ได้อย่างคล่อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2007 Google ได้วางแผนในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android โดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคม รวมไปถึงบริษัทผลิต Application และบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ โดยได้มีการก่อตั้ง องการที่มีชื่อว่า

Open Handset Alliance เป็นองกรความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วนด้านโทรคมนาคมและอุปกรณ์รอมไปถึงซอฟแวร์ที่รวมตัวกันเพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android โดยมี Google เป็นแกนนำ และมีบริษัทที่เข้าร่วมมากมายทั้ง Texas Instruments, Broadcom Corporation, Google, HTC, Intel, LG, Marvell Technology Group, Motorola, Nvidia, Qualcomm, Samsung Electronics, Sprint Nextel และ T-Mobile โดยร่วมกันพัฒนามาตราฐานของอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบเปิด ต่อมา Open Handset Alliance ได้เปิดตัวโปรเจคแรกนั้นก็คือ Android mobile platform โดยใช้ Linux kernel version 2.6 เป็นฐานการพัฒนา
ในช่วงปลายปี 2008 Open Handset Alliance ได้มีบริษัทมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกอีกกว่า 14 บริษัท คือ PacketVideo, ARM Holdings, Atheros Communications, Asustek Computer Inc, Garmin Ltd, Softbank, Sony Ericsson, Toshiba Corp, and Vodafone Group Plc.
คัดลอกจากhttp://www.phet.in.th/2011/01/android-story-android-history/
ในเดือนกรกฏาคมปี 2005 Google ได้เข้าซื้อกิจการของ Android Inc. บริษัทเล็กๆใน Palo Alto, California, USA. โดยเข้าซื้อทั้งกิจการและซื้อทั้งตัวบุคลากรใน Android Inc. ทั้งหมด ในเวลานั้นน้อยคนนักที่จะรู้จักว่าแอนดรอยคืออะไร รู็กันก็แต่ว่ากลุ่มคนที่ถูกซื้อจากบริษัทแอนดรอยนั้นทำซอฟแวร์สำหรับมือถือ ซึ่งในขณะนั้น Google ก็มีแผนจะรุกตลาดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เคลื่อนที่เช่นกัน

ที่กูเกิล หัวหน้าทีมผู้พัฒนาคือ Andy Rubin กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการบนอุปกรณ์เคลื่อนที่รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือโดยใช้ Linux kernel เพื่อเป็นระบบปฏิบัติการให้แก่ผู้ผลิตและผู้ให้บริการโทรศัพท์ โดยมีหลักสำคัญคือ Android ต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถอัพเกรดได้ พร้อมทั้งสามารถรองรับบริการต่างๆจากทาง Google ได้อย่างคล่อง
ต่อมาเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2007 Google ได้วางแผนในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android โดยจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคม รวมไปถึงบริษัทผลิต Application และบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ โดยได้มีการก่อตั้ง องการที่มีชื่อว่า
Open Handset Alliance

Open Handset Alliance เป็นองกรความร่วมมือจากหลายๆภาคส่วนด้านโทรคมนาคมและอุปกรณ์รอมไปถึงซอฟแวร์ที่รวมตัวกันเพื่อพัฒนาระบบปฏิบัติการ Android โดยมี Google เป็นแกนนำ และมีบริษัทที่เข้าร่วมมากมายทั้ง Texas Instruments, Broadcom Corporation, Google, HTC, Intel, LG, Marvell Technology Group, Motorola, Nvidia, Qualcomm, Samsung Electronics, Sprint Nextel และ T-Mobile โดยร่วมกันพัฒนามาตราฐานของอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบเปิด ต่อมา Open Handset Alliance ได้เปิดตัวโปรเจคแรกนั้นก็คือ Android mobile platform โดยใช้ Linux kernel version 2.6 เป็นฐานการพัฒนา
ในช่วงปลายปี 2008 Open Handset Alliance ได้มีบริษัทมาเข้าร่วมเป็นสมาชิกอีกกว่า 14 บริษัท คือ PacketVideo, ARM Holdings, Atheros Communications, Asustek Computer Inc, Garmin Ltd, Softbank, Sony Ericsson, Toshiba Corp, and Vodafone Group Plc.
คัดลอกจากhttp://www.phet.in.th/2011/01/android-story-android-history/
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)